เมื่อผู้ใช้ขับขี่รถยนต์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่คงคำนึกถึง เรื่องยางก่อนแน่ๆ เพราะก่อนจะออกเดินทางไกล ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะต้องเช็คทุกครั้ง ซึ่งถ้าหากผู้ใช้ดูแลยางไม่ดี อาจส่งผลไปยังการเกิด อุบัติเหตุ และความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกันแน่ๆ
เราจะสามารถดูแลยางของเราเองได้อย่างไรบ้าง วันนี้เรามี 4 วิธีที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามาระเช็คและดูแลได้เอง
1.ตรวจเช็คลมยาง
ลมยางมีผลต่อการขับขี่ของผู้ใช้ เช่นการ ควบคุมตัวรถ ,การเบรค, และนอกเหนือจากนั้นคือคำนึกถึง การประหยัดน้ำมัน ซึ่งถ้าหากเติมผิดไป มากหรือน้อยจะส่งผลกระทบ หลายๆอย่าง เมื่อนานไป จะทำให้ยางเสื่อมสภาพได้ และเราควรทำอย่างไร
ผู้ใช้ต้อง ตรวจเช็คลมยางเป็นประจำ เพราะเมื่อเราใช้งานรถทุกวัน ยางจะค่อยๆ เกิดการสูญเสียทุกวัน แล้วแต่การใช้ งาน ผู้ใช้ควรตรวจทุกๆเดือน และสามารถ ดูมาตรฐานของลมยางได้ที่แก้มของยาง หรือ คู่มือรถว่าเราควรเติมให้เหมาะสมกับการใช้งาน ของผู้ใช้ การทำแบบนี้จะช่วยรักษายาง และประหยัดน้ำมันอีกด้วย
2.การสลับยาง
ทำไมสำคัญที่เราจะต้องสลับยาง ? การสึกหรอจะไม่เท่ากันในแต่ละการใช้งาน ซึ่งรถยนต์ของผู้ใช้ ต้องใช้ยางพร้อมกัน 4 เส้น
แบ่งเป็นล้อหน้า 2 เส้น ล้อหลัง 2 เส้น ซึ่งรถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหน้า จะทำให้ล้อหน้าเกิดการสึกหรอมากกว่าล้อหลัง และการเลี้ยวรถ ก็ส่งผล ทำให้เกิดการบด จึงทำให้สึกหลอมากกว่า
และเมื่อไหร่เราควรจะสลับยาง?
1.เราควรจะสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และการใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้ที่ ใช้ความเร็ว, บรรทุกของหนัก อาจจะต้องสลับยางถี่กว่าในการสลับทุกๆ 10,000 กิโลเมตร
- หากมีเสียงรบกวรหรือเสียงผิดปกติ ควรสลับยาง
- เกิดการสึกหรอผิดปกติ เช่นการสึกหรอ 1 ข้าง ที่เกิดจากการเลี้ยวหรือการสึกหรอที่ผิดปกติ
3.ตรวจเช็ดดอกยาง
เราสามารถประเมินและป้องกันได้ด้วยตัวเอง โดยการตรวจดอกยางเป็นระยะๆ ช่วยให้เรารู้ว่าสึกหรอไปเท่าไหร่แล้ว หรือเช็คก่อนเมื่อเราเดินทางไกล ก่อนและหลังการเดินทาง
ดอกยางต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 มิลิเมตร ซึ่งมาตรฐานนี้ เป็นมาตรฐานตามกฎหมายยุโรปที่กำหนดไว้
เช็คเสียงและความดังของยาง โดนดูเศษหิน เศษต่างๆ ตามลายของยาง
4.เราควรเปลี่ยนยางเมื่อไหร่
เมื่อยางรถยนต์ของผู้ใช้เสื่อมสภาพ หรือหมดอายุของยาง หรือการใช้งานที่ผิดปกติ อาการบวมปูดของยาง ยางแตก และยางที่แบนไม่สามารถรับลม แถบตัววัดดอกยางหายไป หรือกรณีอื่นๆ ผู้ใช้ควรเปลี่ยนยาง เพื่อการขับขี่รถที่ปลอดภัย ของผู้ใช้งานทุกคน